จังหวัดสกลนคร
จังหวัดสกลนคร
|
สกลนคร หรืออีกชื่อหนึ่งว่า "เมืองหนองหานหลวง" เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนตั้งอยู่ในแอ่งสกลนคร และเป็นศูนย์ปฏิบัติการกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน2 ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์สืบเนื่องจวบจนปัจจุบัน ทั้งนี้จังหวัดสกลนครยังเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีความสำคัญและหลากหลายในด้านต่างๆโดยเฉพาะทางด้านสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ สังคม การเมือง ศาสนา และวัฒนธรรมทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น[3] และเป็นจังหวัดศูนย์กลางในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และศูนย์กลางทางการศึกษา อันเป็นสถานที่ตั้งของสถานศึกษาขนาดใหญ่ใน กลุ่มจังหวัดสนุก (สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร)[4]
เนื้อหา
[ซ่อน]ชื่อเมือง[แก้]
คำว่า "สกลนคร" มาจากคำภาษาบาลีและสันสกฤต สกล [สะ-กะ-ละ] หมายความว่า โดยรวม ครอบคลุม หรือทั้งหมด และคำว่า "นคร" [นะ-คะ-ระ] หมายถึงแหล่งที่อยู่หรือเมือง ดังนั้นชื่อที่แท้จริงของเมืองหมายความว่า "นครแห่งนครทั้งมวล"
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด[แก้]
- คำขวัญประจำจังหวัด : พระธาตุเชิงชุมคู่บ้าน พระตำหนักภูพานคู่เมือง งามลือเลื่องหนองหาร แลตระการปราสาทผึ้ง สวยสุดซึ้งสาวภูไท ถิ่นมั่นในพุทธธรรม
- ตราประจำจังหวัด : รูปพระธาตุเชิงชุม เบื้องหลังเป็นหนองหาร
- ต้นไม้ประจำจังหวัด : อินทนิล (Lagerstroemia speciosa)
- ดอกไม้ประจำจังหวัด : อินทนิล
- สัตว์น้ำประจำจังหวัด : ปลากาหรือปลาอีก่ำ (Labeo chrysophekadion)
ประวัติ[แก้]
สกลนคร เป็นแหล่งธรรมะ มีปูชนียสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาหลายแห่ง เช่น พระธาตุเชิงชุม พระธาตุดูม พระธาตุนารายณ์เจงเวง พระธาตุศรีมงคล พระธาตุภูเพ็ก และมีพระเกจิอาจารย์ดังที่เป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศ อาทิ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต, พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร, หลวงปู่หลุย จันทสาโร, พระอาจารย์วัน อุตตโม และหลวงปู่เทสก์ เทสก์รังสี เป็นต้น
จังหวัดสกลนครตั้งอยู่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ โดยมีการขุดพบฟอสซิลไดโนเสาร์บริเวณแนวทิวเขาภูพาน อำเภอวาริชภูมิ ภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ ชุมชนโบราณในพื้นที่จังหวัดสกลนครอยู่ร่วมสมัยเดียวกับอารยธรรมบ้านเชียงในจังหวัดอุดรธานี จากการสำรวจแหล่งชุมชนโบราณในพื้นที่แอ่งสกลนคร บริเวณลุ่มแม่น้ำสงครามครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของอำเภอบ้านดุง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี อำเภอสว่างแดนดิน อำเภอวาริชภูมิ อำเภอพังโคน อำเภอวานรนิวาส อำเภอพรรณานิคม และรอบ ๆ หนองหาน อำเภอเมืองสกลนคร พบแหล่งโบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์จำนวน 83 แห่ง ชุมชนโบราณของแอ่งสกลนครนี้มีอายุประมาณ 600 ปีก่อนพุทธกาลจนถึงพุทธศตวรรษที่ 8 (ระหว่าง 3,000-1,800 ปีมาแล้ว) จากหลักฐานการค้นพบต่าง ๆ ของที่นี่พบว่า ชุมชนโบราณในแอ่งสกลนครได้มีการรวมตัวกันเป็นสังคมขนาดใหญ่และอาจจะพัฒนาเป็นสังคมเมืองในสมัยต่อมา
สกลนครเดิมชื่อ เมืองหนองหานหลวง แห่งอาณาจักรขอมโบราณ โดยขุนขอมราชบุตรเจ้าเมืองอินทปัฐนคร ซึ่งได้อพยพครอบครัวและบ่าวไพร่มาจากเมืองเขมร มาสร้างเมืองใหม่ที่ริมหนองหานหลวง บริเวณท่านางอาบ ปัจจุบันเรียกว่าท่าศาลา อำเภอโคกศรีสุพรรณ มีเจ้าปกครองเรื่อยมาจนสิ้นสมัยพระเจ้าสุวรรณภิงคาระ เมื่อเกิดฝนแล้งทำให้ราษฎรอพยพไปเมืองเขมร เมืองหนองหานหลวงจึงร้างอยู่ระยะหนึ่ง ครั้นถึงพุทธศตวรรษที่ 19 เมื่อสกลนครอยู่ภายใต้อิทธิพลของอาณาจักรล้านช้าง จึงได้เปลี่ยนชื่อเมืองเป็น "เชียงใหม่หนองหาน" หรือเมืองสระหลวงหลังจากนั้นเมืองสกลนคร คงอยู่ใต้การปกครองกันไปมา ระหว่างอาณาจักรล้านช้างกับอาณาจักรสุโขทัย และไม่ค่อยมีบทบาททางประวัติศาสตร์ที่โดดเด่นนัก จนมาถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา ผู้คนกระจัดกระจายเป็นชุมชนเล็กๆทำมาหากินตามริมหนองหาน จ่ายส่วย อากรให้เจ้าแขวงประเทศราชศรีโคตรบอง เพื่อถวายต้นไม้เงิน ต้นไม้ทองให้แก่ราชธานีกรุงศรีอยุธยาในสมัยนั้น
จนมาถึงในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อุปฮาดเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยครอบครัวมาตั้งบ้านเมืองดูแลรักษาองค์พระธาตุเชิงชุม จนมีผู้คนมากขึ้นแล้วจึงโปรดเกล้าฯ ให้ยกบ้านธาตุเชิงชุมเป็น เมืองสกลทวาปี โดยแต่งตั้งให้อุปฮาดเมืองกาฬสินธุ์เป็นพระธานี เจ้าเมืองสกลทวาปีคนแรก ต่อมาปี พ.ศ. 2369 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เกิดกบฏเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์ เจ้าเมืองสกลทวาปีไม่ได้เตรียมกำลังป้องกันเมือง เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เป็นแม่ทัพมาตรวจราชการเห็นว่าเจ้าเมืองกรมการไม่เอาใจใส่ต่อบ้านเมือง ปล่อยให้ข้าศึก (ทัพเจ้าอนุวงศ์) ล่วงล้ำไปเมืองนครราชสีมาได้โดยง่าย จึงสั่งให้นำตัวพระธานีไปประหารชีวิตที่หนองทรายขาว พร้อมกับกวาดต้อนผู้คนในเมืองสกลทวาปีไปอยู่ที่เมืองกบินทร์บุรีบ้าง เมืองประจันตคามบ้าง ให้คงเหลือรักษาองค์พระธาตุเชิงชุมแต่เพียงพวกเพี้ยศรีคอนชุม ตำบลธาตุเชิงชุม บ้านหนองเหียน บ้านจานเพ็ญ บ้านอ่อมแก้ว บ้านธาตุเจงเวง บ้านพราน บ้านนาคี บ้านวังยาง และบ้านพรรณา รวม 10 ตำบล เพื่อให้เป็นข้าปฏิบัติพระธาตุเชิงชุมเท่านั้น
ในสมัยต่อ ๆ มาได้มีราชวงศ์คำแห่งเมืองมหาชัยกองแก้วทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ได้อพยพข้ามแม่น้ำโขงเข้ามาขอพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ขอสร้างบ้าน แปงเมืองขึ้นใหม่ที่เมืองสกลทวาปี พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ราชวงศ์คำเป็นพระยาประเทศธานี (คำ) ในตำแหน่งเจ้าเมืองสกลทวาปี และทรงเปลี่ยนนามเมืองใหม่เป็น เมืองสกลนคร ตั้งแต่บัดนั้นมา จนถึง พ.ศ. 2435 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว การปกครองเมืองสกลนคร จึงเปลี่ยนเป็นรูปแบบการปกครองส่วนภูมิภาคมณฑลเทศาภิบาล โดยส่วนกลางส่งพระยาสุริยเดช (กาจ) มาเป็นข้าหลวงเมืองสกลนครคนแรก และมีพระยาประจันตประเทศธานี (โง่นคำ พรหมสาขา ณ สกลนคร) เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดคนแรก
อาณาเขตติดต่อ[แก้]
สกลนครมีอาณาเขตติดกับจังหวัดอื่น ๆ ดังนี้
- ทิศเหนือ จรดจังหวัดบึงกาฬและจังหวัดหนองคาย
- ทิศตะวันออก จรดจังหวัดมุกดาหารและจังหวัดนครพนม
- ทิศใต้ จรดจังหวัดกาฬสินธุ์
- ทิศตะวันตก จรดจังหวัดอุดรธานี
สภาพทางภูมิศาสตร์[แก้]
ภูมิประเทศ[แก้]
ลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง สูงกว่าระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยประมาณ 172 เมตร ด้านทิศเหนือของจังหวัด (บริเวณอำเภอบ้านม่วง อำเภอคำตากล้า อำเภอสว่างแดนดิน อำเภออากาศอำนวย และอำเภอเจริญศิลป์) มีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มลอนคลื่นไม่สม่ำเสมอกัน ใช้น้ำจากลำห้วยสาขาในการทำนา ทิศเหนือของอำเภออากาศอำนวยเป็นที่ราบน้ำท่วมถึง เนื่องจากติดกับแม่น้ำสงคราม ทำให้เหมาะแก่การทำนากว่าพื้นที่โดยรอบ แต่พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าทาม ที่ขึ้นริมน้ำและปล่อยรกร้างว่างเปล่า ส่วนทางตอนใต้มีลักษณะเป็นแอ่งกระทะขนาดใหญ่ เรียกว่าแอ่งสกลนคร จุดต่ำสุดของแอ่งคือ ทะเลสาบหนองหาน อำเภอเมืองสกลนคร และหนองญาติ อำเภอเมืองนครพนม นอกจากนี้ยังมีทิวเขาภูพานทางด้านทิศตะวันตกและทิศใต้บริเวณอำเภอภูพานและอำเภอกุดบาก มีลักษณะภูมิประเทศแบบภูเขาสูงสลับกับที่ราบลูกคลื่นที่อยู่ช่วงกลางระหว่างทิวเขาภูพานในเขตจังหวัดกาฬสินธุ์และจังหวัดสกลนคร
ภูมิอากาศ[แก้]
ลักษณะภูมิประเทศของภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นที่ราบสูง มีทิวเขาล้อมรอบทั้งด้านทิศตะวันตกและด้านใต้ ได้แก่ ทิวเขาเพชรบูรณ์และทิวเขาดงพญาเย็นอยู่ทางตะวันตก ทิวเขาสันกำแพงและทิวเขาพนมดงรักอยู่ทางด้านใต้ ทำให้ฝนที่เกิดจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีน้อย ส่วนมากเป็นฝนที่เกิดจากร่องความกดอากาศต่ำพายุดีเปรสชันจากอ่าวตังเกี๋ยและทะเลจีนใต้ที่เคลื่อนผ่านเข้ามาระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายน ค่าปานกลางของปริมาณน้ำฝนจังหวัดสกลนครประมาณปีละ 1,578 มิลลิเมตร สกลนครมีลักษณะอากาศหนาวอย่างชัดเจนกระแสลมที่เย็นและแห้ง หย่อมความกดอากาศสูงที่แผ่ปกคลุมมาจากประเทศจีน ส่งผลกระทบต่อดินฟ้าอากาศในจังหวัดสกลนครมาก เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศเป็นแอ่งกระทะ และมีฉากรับลมเป็นทิวเขาภูพาน ประกอบกับเมื่อมีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจากประเทศจีนที่พัดเข้ามา เมื่อพัดผ่านหนองหานน้ำจะเป็นตัวลดอุณหภูมิลง จึงทำให้สกลนครมีอากาศที่หนาวเย็นกว่าพื้นที่อื่น จังหวัดสกลนครเคยมีอุณหภูมิต่ำสุดจนถึง -1.4 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2517 ที่สถานีอากาศเกษตร อำเภอเมืองสกลนคร และวัดได้ -2.5 เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2542 สถานีตรวจอากาศเกษตรสกลนคร ซึ่งเป็นสถิติอุณหภูมิพื้นราบที่ต่ำสุดของประเทศไทยในขณะนี้ [5]
หน่วยการปกครอง[แก้]
รายนามผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร[แก้]
รายนามผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร | |||||||||
ลำดับ | รายนาม | ระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | พระยาประจันตประเทศธานี | - | |||||||
2 | พระพิษัยสิทธิกรรม | - | |||||||
3 | พระเลิศแหล่งหล่ม | 1 เมษายน 2451 ถึง 31 มีนาคม 2454 | |||||||
4 | พระยาสกลกิจวิจารย์ | 1 เมษายน 2454 ถึง 26 กันยายน 2471 | |||||||
5 | พระอนุบาลสกลเขต | 8 กันยายน 2471 ถึง 31 มีนาคม 2473 | |||||||
6 | พ.ท.พระณรงค์ฤทธิ์ | 1 เมษายน 2474 ถึง 26 กันยายน 2474 | |||||||
7 | พระตราษบุรีศรีสมุทรเขต | 1 มีนาคม 2474 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2476 | |||||||
8 | หลวงบริบาลนิคมเขต | 14 มีนาคม 2476 ถึง 31 มีนาคม 2478 | |||||||
9 | พ.ต.ท. หลวงไกลกลางณรงค์ | 1 เมษายน 2478 ถึง 11 พฤษภาคม 2480 | |||||||
10 | หลวงเกษม ประศาสน์ | 12 พฤษภาคม 2480 ถึง 1 สิงหาคม 2481 | |||||||
11 | พระบรรณศาสน์สาธร | 2 สิงหาคม 2481 ถึง 31 มีนาคม 2482 | |||||||
12 | นายสุข ฉายาชวลิต | 1 เมษายน 2482 ถึง 30 เมษายน 2484 | |||||||
13 | ขุนศุภกิจวิเลขการ | 1 พฤษภาคม 2484 ถึง 31 พฤษภาคม 2487 | |||||||
14 | นายเติม ศิลปี | 1 มกราคม 2488 ถึง 30 กันยายน 2489 | |||||||
15 | พ.ต.ท. หลวงนเรนทร เสนี | 1 พฤษภาคม 2489 ถึง 30 ตุลาคม 2490 | |||||||
16 | นายชู สุคนธมัติ | 24 พฤษภาคม 2490 ถึง 15 ธันวาคม 2490 | |||||||
17 | นายเพชร บูรณะวรศิริ | 23 ธันวาคม 2490 ถึง 2 กันยายน 2493 | |||||||
18 | พ.ต.อ. เสนาะศักดิ์ คิวสกุล | 4 กันยายน 2493 ถึง 13 ตุลาคม 2495 | |||||||
19 | พ.ต.อ. เนื่อง รายะนาค | 4 พฤศจิกายน 2495 ถึง 22 พฤษภาคม 2500 | |||||||
20 | พ.ต.อ. นิรันดร ชัยนาม | 23 พฤษภาคม 2500 ถึง 8 มกราคม 2503 | |||||||
21 | นายเที่ยง เฉลิมช่วง | 9 มกราคม 2503 ถึง 2 มกราคม 2505 | |||||||
22 | นายสุพัฒน์ วงษ์วัฒนะ | 3 มกราคม 2505 ถึง 1 พฤษภาคม 2506 | |||||||
23 | นายโบแดง จันตะเสน | 6 ธันวาคม 2506 ถึง 30 พฤศจิกายน 2511 | |||||||
24 | นายจรูญ โลกะกะลิน | 24 ตุลาคม 2511 ถึง 30 กันยายน 2514 | |||||||
25 | นายสอน สุทธิสาร | 4 ตุลาคม 2514 ถึง 30 กันยายน 2518 | |||||||
26 | นายพิบูลย์ ธุรภาคพิบูล | 1 ตุลาคม 2518 ถึง 1 ตุลาคม 2519 | |||||||
27 | นายสมพร กลิ่นพงษา | 1 ตุลาคม 2519 ถึง 30 กันยายน 2520 | |||||||
28 | นายวิเชียร วิมลศาสตร์ | 1 ตุลาคม 2520 ถึง 30 กันยายน 2521 | |||||||
29 | นายสายสิทธิ พรแก้ว | 1 ตุลาคม 2521 ถึง 30 กันยายน 2524 | |||||||
30 | นายปรีชา พงศ์อิศวรานันท์ | 1 ตุลาคม 2524 ถึง 30 กันยายน 2527 | |||||||
31 | นายพีระ บุญจริง | 1 ตุลาคม 2547 ถึง 30 กันยายน 2531 | |||||||
32 | นายถนอม ชาญนุวงศ์ | 1 ตุลาคม 2531 ถึง 30 กันยายน 2534 | |||||||
33 | นายสุพร สุภสร | 1 ตุลาคม 2534 ถึง 30 กันยายน 2535 | |||||||
34 | นายอำนวย ยอดเพชร | 1 ตุลาคม 2535 ถึง 30 กันยายน 2536 | |||||||
35 | เรือตรีสุนัย ณ อุบล | 1 ตุลาคม 2536 ถึง 30 กันยายน 2538 | |||||||
36 | นายเกียรติพันธ์ น้อยมณี | 1 ตุลาคม 2538 ถึง 30 กันยายน 2539 | |||||||
37 | นายโยธิน เมธชนัน | 1 ตุลาคม 2539 ถึง 19 ตุลาคม 2540 | |||||||
38 | ์นายรุ่งฤทธิ์ มกรพงศ์ | 16 ตุลาคม 2540 ถึง 31พฤษภาคม 2543 | |||||||
39 | นายชัยสิทธิ์ โหตระกิตย์ | 1 มิถุนายน 2543 ถึง 30 กันยายน 2544 | |||||||
40 | นายทวีป เทวิน | 1 ตุลาคม 2544 ถึง 27 ตุลาคม 2545 | |||||||
41 | นายพีรพล ไตรทศาวิทย์ | 28 ตุลาคม 2545 ถึง 4 มิถุนายน 2546 | |||||||
42 | นายปานชัย บวรรัตนปราณ | 5 มิถุนายน 2546 ถึง 30 กันยายน 2548 | |||||||
43 | นายปรีชา กมลบุตร | 1 ตุลาคม 2548 ถึง 30 กันยายน 2550 | |||||||
44 | นายไพรัตน์ สกลพันธ์ | 1 ตุลาคม 2550 ถึง 5 พฤษภาคม 2551 | |||||||
45 | นายสุวัฒน์ ตันประวัติ | 6 พฤษภาคม 2551 ถึง 19 ตุลาคม 2551 | |||||||
46 | นายวิทยา ผิวผ่อง | 20 ตุลาคม 2551 ถึง 15 มีนาคม 2552 | |||||||
47 | นายสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ | 16 มีนาคม 2552 ถึง 13 กันยายน 2553 | |||||||
48 | นายอำนาจ ผการัตน์ | 1 ตุลาคม 2553 ถึง 30 กันยายน 2554 | |||||||
49 | นายจรินทร์ จักกะพาก | 28 พฤศจิกายน 2554 ถึง 7 ตุลาคม 2555 | |||||||
50 | นายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ | 8 ตุลาคม 2555 ถึง 30 กันยายน 2558 | |||||||
51 | นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ | 1 ตุลาคม 2558 ถึง 30 กันยายน 2559 | |||||||
52 | นายวิทยา จันทร์ฉลอง | 1 ตุลาคม 2559 ถึงปัจจุบัน |
สถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อน[แก้]
แหล่งท่องเที่ยว[แก้]
- สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ สกลนคร
- สวนแม่สวนลูก สกลนคร
- หนองหาน
- อุทยานบัว หนองหารเฉลิมพระเกียรติ
- ภูไท บ้านโนนหอม
- โคขุนโพนยางคำ
- หอส่องดาว
- ท้องฟ้าจำลอง
- สวนน้ำ
- โบสถ์อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอลท่าแร่
- สุริยะปฏิทิน
- เกาะดอนสวรรค์
- หมู่บ้านท่าแร่
- พญาเต่างอย
อุทยาน[แก้]
สกลนครเป็นจังหวัดที่มีทรัพยากรธรรมชาติทั้งภูเขาและป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ เป็น1ใน5จังหวัด(5จังหวัดที่ประกาศเป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธารของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ;จังหวัดนครราชสีมา-แม่น้ำมูล-ลำตะคอง-ลำมูลบน,จังหวัดชัยภูมิ-แม่น้ำชี-ลำน้ำพรหม-ลำน้ำเชิญ,จังหวัดเลย-แม่น้ำเลย-ลำน้ำพอง-แม่น้ำเหือง,จังหวัดอุดรธานี-แม่น้ำสงคราม-แม่น้ำปาว-ลำน้ำห้วยหลวงและจังหวัดสกลนคร-แม่น้ำสงคราม-ลำน้ำก่ำ-ลำน้ำพุง)ที่เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอุทยาน/วนอุทยานที่สำคัญดังนี้
- อุทยานแห่งชาติภูพาน ที่ทำการอุทยานฯตั้งอยู่ที่ตำบลห้วยยาง อำเภอเมืองสกลนคร(สกลนคร-กาฬสินธุ์)
- อุทยานแห่งชาติภูผายล/ห้วยหวด ที่ทำการอุทยานฯตั้งอยู่ที่บ้านห้วยหวด ตำบลจันทร์เพ็ญ อำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร(สกลนคร-นครพนม-มุกดาหาร)
- อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก ที่ทำการอุทยานฯตั้งอยู่ที่บ้านท่าวัด ตำบลปทุมวาปี อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร(สกลนคร-อุดรธานี-กาฬสินธุ์)
- วนอุทยานภูผาแด่น ที่ทำการวนอุทยานฯตั้งอยู่ที่บ้านหนองไผ่ ตำบลดงมะไฟ อำเภอเมืองสกลนคร
เทศกาลและประเพณีประจำปี[แก้]
- เทศกาลนมัสการองค์พระธาตุเชิงชุมและหลวงพ่อองค์แสน
- เทศกาลตรุษไทสกล คนจีน เวียดนาม จังหวัดสกลนคร
- งานรวมน้ำใจไทสกลและงานกาชาดจังหวัดสกลนคร
- เทศกาลโส้รำลึก
- เทศกาลบุญข้าวจี่
- เทศกาลเซิ้งผีโขน
- เทศกาลวันวิสาขบูชา จังหวัดสกลนคร
- ประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง
- เทศกาลลอยพระประทีปพระราชทาน สิบสองเพ็งไทสกล
- ประเพณีแห่ดาว เทศกาลคริสต์มาส จังหวัดสกลนคร
การคมนาคม[แก้]
การคมนาคมทางบก[แก้]
- สถานีขนส่งผู้โดยสารเทศบาลนครสกลนคร
- สถานีขนส่งผู้โดยสาร แห่งที่ 2 เทศบาลนครสกลนคร
- สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอสว่างแดนดิน (ยกเลิกให้บริการ)
รถยนต์ จากกรุงเทพมหานคร ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 (พหลโยธิน) ถึงจังหวัดสระบุรี จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2(มิตรภาพ) ผ่านจังหวัดนครราชสีมา แล้วเลี้ยวแยกเข้าทางไปในเขตอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 ไปจนถึงบ้านท่าพระ แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 23 ผ่านจังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดกาฬสินธุ์ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 213 เพื่อเข้าสู่จังหวัดสกลนคร
รถไฟ สามารถเดินทางโดย การรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งมีบริการรถไฟออกจากสถานีรถไฟกรุงเทพ(หัวลำโพง) ไปลงที่จังหวัดอุดรธานี แล้วเดินทางต่อไปโดยรถประจำทางไปจังหวัดสกลนครอีกประมาณ 159 กิโลเมตร (ดูข้อมูลที่ "รถโดยสารประจำทาง เส้นทางระหว่างจังหวัด")
รถโดยสารประจำทาง เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ มีรถโดยสารปรับอากาศชั้น 1 และชั้น 2 สาย 26 (กรุงเทพฯ - นครพนม แต่รถผ่านจังหวัดสกลนคร ใช้เส้นทาง นครราชสีมา เมืองพล บ้านไผ่ มหาสารคาม กาฬสินธุ์ สกลนคร บ้านท่าแร่ กุสุมาลย์) สาย 27 (กรุงเทพฯ - สกลนคร หรือ กรุงเทพฯ - สกลนคร - เรณูนคร) สาย 930 (กรุงเทพฯ - นครพนม แต่รถผ่านจังหวัดสกลนคร ใช้เส้นทาง นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี หนองหาน สว่างแดนดิน พังโคน พรรณานิคม บ้านดงมะไฟ สกลนคร บ้านท่าแร่ กุสุมาลย์) วิ่งให้บริการจาก สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) หรือ หมอชิต 2 มายังจังหวัดสกลนคร รถจะจอดที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดสกลนคร แห่งที่ 2 (บขส.ใหม่) โดยมีบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ให้บริการรถประจำทางปรับอากาศชั้น 1 มาตรฐาน ม.4ข, ม.4ก (VIP) สาย 26 27 และชั้น 2 (ม.4ค) สาย 26,27 และเอกชน ที่ได้รับสัมปทานจาก บขส. ให้เปิดบริการเดินรถโดยสารสาย 26 27 และ 930 จำนวน 3 รายคือ
• บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด ให้บริการรถประจำทางปรับอากาศชั้น 1 มาตรฐาน ม.1ข Silver และ ม.1พ Gold+ สาย 26 และ 27 ทั้งแบบหมดระยะที่สกลนคร และหมดระยะที่เรณูนคร(เป็นรถผ่าน)
• บริษัท กิจการราชสีมายานยนต์ จำกัด (เชิดชัยทัวร์) ให้บริการรถประจำทางปรับอากาศชั้น 1, ชั้น 2 มาตรฐาน ม.1ข (รถชั้นเดียว) ,ม.4ข (รถ 2 ชั้น) และ ม.2 สาย 930
• บริษัท โลตัสพิบูลทัวร์ จำกัด ให้บริการรถประจำทางชั้น 1 มาตรฐาน ม.1ข (รถชั้นเดียว) และ ม.4กพ (รถสองชั้น ชั้นบน พ. ชั้นล่าง ก.) สาย 930
รถโดยสารประจำทาง เส้นทางระหว่างจังหวัด
• บริษัท อุดร-สกลเดินรถ จำกัด สาย 230 สกลนคร - อุดรธานี (ผ่าน บ้านดงมะไฟ อ.พรรณานิคม อ.พังโคน อ.สว่างแดนดิน อ.หนองหาน อุดรธานี)
• บริษัท สหอุดรเดินรถ จำกัด สาย 231 อุดรธานี - สกลนคร - นครพนม (ผ่าน หนองหาน อ.สว่างแดนดิน อ.พังโคน อ.พรรณานิคม บ้านดงมะไฟ สกลนคร บ้านท่าแร่ อ.กุสุมาลย์ นครพนม)
• บริษัท สหมิตรอุบล จำกัด สาย 235 อุบลราชธานี - สกลนคร - อุดรธานี
• สาย 287 สกลนคร - อ.บ้านแพง (จ.นครพนม)
• สาย 559 สกลนคร - อ.บ้านม่วง
• บริษัท เชิงชุมเดินรถ จำกัด (ชัยวัฒน์เซอร์วิส) สาย 586 ขอนแก่น - นครพนม (ใช้เส้นทาง กาฬสิทธุ์ สมเด็จ บ้านคำเพิ่ม สกลนคร บ้านท่าแร่ กุสุมาลย์)
• บริษัท จักรพงษ์ทัวร์ จำกัด และ บริษัท เทพสมบัติ จำกัด (สมบัติทัวร์) สาย 661 นครพนม - เชียงราย
• บริษัท ชาญทัวร์ จำกัด สาย 827 นครพนม - ระยอง และสาย 837 นครพนม - นครศรีธรรมราช / นครพนม - เกาะสมุย
• บริษัท เพชรประเสริฐ จำกัด สาย 876 เชียงใหม่ - นครพนม
การคมนาคมภายในตัวจังหวัดสกลนคร
• รถเมล์เล็ก สีเหลือง วิ่งรอบเมือง ราคา 10 บาท ตลอดสาย (เส้นทาง บขส.ใหม่ ศูนย์ราชการ รร.สกลพัฒน์ ตลาด ต.การค้า บิ๊กซี รพ.ศูนย์สกลนคร วัดพระธาตุเชิงชุม สภ.เมืองสกลนคร รร.สกลราชฯ ประตูเมือง ถนนข้างตลาด ต.การค้า และวิ่งกลับเส้นทางเดิม ไป บขส.ใหม่)
• รถสองแถว มีหลายสาย คิดค่าโดยสารตามระยะทาง
• รถจักรยานยนต์รับจ้าง คิดค่าโดยสารตามระยะทาง
• รถสามล้อเครื่อง (รถสกายแล็บ) คิดค่าโดยสารตามระยะทาง (เป็นรถเหมา)
• แท็กซี่ คิดค่าโดยสารตามระยะทางบนมิเตอร์
• รถสามล้อถีบ คิดค่าโดยสารตามระยะทาง
การคมนาคมทางอากาศ[แก้]
การเดินทางโดยเครื่องบินโดยมีสายการบินที่ให้บริการ 2 สายการบินคือ
• นกแอร์ สกลนคร ไป-กลับ กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) วันละ 3 เที่ยวบิน
• แอร์เอเชีย สกลนคร ไป-กลับ กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) วันละ 2 เที่ยวบิน
พระตำหนักที่สำคัญ[แก้]
สนามกีฬา[แก้]
การศึกษา[แก้]
ระดับอนุบาล/ประถมศึกษา[แก้]
- โรงเรียนวิถีธรรมแห่งมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร อำเภอเมือง
- โรงเรียนเชิงชุมราษฎร์นุกูล อำเภอเมือง
- โรงเรียนอนุบาลสกลนคร อำเภอเมือง
ระดับมัธยมศึกษา[แก้]
- โรงเรียนสกลราชวิทยานุกูลอำเภอเมือง
- โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อำเภอสว่างแดนดิน
- ดูที่ รายชื่อโรงเรียนในจังหวัดสกลนคร
ระดับอาชีวศึกษา[แก้]
สังกัดรัฐบาล
สังกัดเอกชน
- วิทยาลัยเทคโนโลยีเทคนิคเอเชีย
- วิทยาลัยเทคโนโลยีบริหารธุรกิจพรรณา
- โรงเรียนเทคนิคเจริญบัณฑิต
- วิทยาลัยเทคโนโลยีพุทธรักษา
- วิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการสกลนคร
- วิทยาลัยเทคโนโลยีพังโคนพณิชยการ
- วิทยาลัยอาชีวศึกษาสกลนครพัฒนศิลป์
- วิทยาลัยเทคโนโลยีเทคนิคภูพาน
- วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออกเฉียงเหนือสกลนคร
ระดับอุดมศึกษา[แก้]
สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ
- มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร
- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ศูนย์การศึกษาทางไกลจังหวัดสกลนคร (สนามสอบ :โรงเรียนสกลราชวิทยานุกูล โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาฯ )
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร
- มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (หน่วยวิทยบริการสกลนคร)
สถาบันอุดมศึกษาในกำกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
สถาบันอุดมศึกษาเอกชน
- มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น ศูนย์สกลนคร
- สถาบันรัชต์ภาคย์ ศูนย์สกลนคร
บุคคลสำคัญ ที่มีชื่อเสียง[แก้]
พระเถระ[แก้]
- พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
- พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร
- พระอุดมวิสุทธิเถร (หลวงปู่วัน อุตตโม) วัดถ้ำพวง ต.ปทุมวาปี อ.ส่องดาว จ.สกลนคร
- พระหลวงตาแตงอ่อน กัลญาณธรรมโม วัดป่าโชคไพศาล ต.นาซอ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร
- หลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป
- หลวงปู่บุญหนา ธมฺมทินโน
- หลวงปู่แบน ธนากโร วัดดอยธรรมเจดีย์ อำเภอโคกศรีสุพรรณ
- หลวงปู่อว้าน เขมโก วัดป่านาคนิมิตต์ อำเภอโคกศรีสุพรรณ
การเมือง[แก้]
- กฤษณ์ สีวะรา
- ครอง จันดาวงศ์
- จิตร ภูมิศักดิ์
- เตียง ศิริขันธ์
- ทองพันธ์ สุทธิมาศ
- พระยาประจันตประเทศธานี (โง่นคำ)
- มาลีรัตน์ แก้วก่า
- อนงค์ ตงศิริ
- อภิชาติ ตีรสวัสดิชัย
- เอกพร รักความสุข
- สาคร พรหมภักดี
นักวิชาการ[แก้]
นักธุรกิจ[แก้]
วงการบันเทิง[แก้]
- มณีรัตน์ คำอ้วน (เอ๋)
- พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร (เสนาเพชร)
- วิเชียร กุศลมโนมัย (ดีเจเพชรจ้า)
- สุริวิภา กุลตังวัฒนา (แหม่ม)
- กีรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร (เขียวคาราบาว)
- กชามาศ พรหมสาขา ณ สกลนคร
- สุ ไทรงาม ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต
- นก พรพนา ศิลปินเพลงลูกทุ่ง
- เอิ้นขวัญ วรัญญา ศิลปินเพลงลูกทุ่ง
- ปอ ปาริชาต ศิลปินเพลงลูกทุ่ง
- ราชนิกร แก้วดี (ผู้ชนะเลิศการแข่งขันไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ฤดูกาลที่ 2)
- ปณิธาน ธารชัย (ฟาร์ม เดอะวอยซ์ ฤดูกาลที่ 3)
- สิรภพ สมผล
- แตงกวา ณัฐรดา ศิลปินเพลงลูกทุ่ง
- ก้องหล้า ยอดจำปา (ก้อง ห้วยไร่) ศิลปินลูกทุ่ง
- ภัชราภรณ์ แก้วมุงคุณ (นาขวัญ แก้วสกล) ศิลปินลูกทุ่ง
- สินทร บุญญาเพชร ศิลปินลูกทุ่ง
นักกีฬา[แก้]
นักฟุตบอล
นักมวย
นักปั่นจักรยาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น