วันพุธที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2561

12 ที่เที่ยวสกลนคร เมืองน่ารักมากเสน่ห์แห่งแดนอีสาน
    ที่เที่ยวสกลนคร อีกหนึ่งจังหวัดภาคอีสานน่าไปเยือน เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ วิถีชีวิตผู้คน และศิลปวัฒนธรรมที่น่าค้นหา 
         สกลนนคร อีกหนึ่งจังหวัดเด่นในภาคอีสาน หลัง ๆ มานี้กระแสการท่องเที่ยวจังหวัดสกลนครเริ่มเป็นที่สนใจในหมู่นักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ด้วยเพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ทั้งเก่าแก่และสวยงามซ่อนอยู่มากมาย ตลอดจนวิถีชีวิตที่น่าสนใจของผู้คน จนทำให้สกลนครเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่น่ามาเที่ยวที่สุดแห่งหนึ่งของภาคอีสาน และเราไม่ขอพลาดหยิบเอาลิสต์ที่เที่ยวสกลนครมาฝาก เผื่อว่าใครแวะมาเที่ยวที่นี่จะได้ไม่พลาดเช็กอินกันค่ะ

1. วัดพระธาตุเชิงชุม

ที่เที่ยวสกลนคร

         ตั้งอยู่บริเวณถนนเจริญเมือง ศาสนสถานคู่บ้านคู่เมืองประจำจังหวัด องค์พระธาตุงดงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบล้านช้าง ที่วิจิตรบรรจงด้วยงานช่างสมัยโบราณ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยววัดพระธาตุเชิงชุมต้องไม่พลาดนมัสการ "หลวงพ่อพระแสน" ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์และให้พรในเรื่องโชคลาภ จนชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือและทำให้ปัจจุบันมีประชาชนเข้ามากราบไหว้พระธาตุเชิงชุมและหลวงพ่อพระแสนเป็นจำนวนมาก

2. พระธาตุภูเพ็ก

ที่เที่ยวสกลนคร

         ตั้งอยู่ที่ตำบลนาหัวบ่อ อำเภอพรรณานิคม นักท่องเที่ยวที่ต้องการขึ้นไปนมัสการพระธาตุจะต้องขึ้นบันไดประมาณ 491 ขั้น ซึ่งสร้างอยู่บนยอดเขาภูพาน และเพราะด้วยทางขึ้นค่อนข้างชันและไกล ที่นี่นับเป็นโบราณสถานชื่อดัง อันเป็นสถานที่แสดงปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ ที่สามารถบ่งชี้ตำแหน่งดวงอาทิตย์ในจักรราศีได้อย่างแม่นยำ ตั้งตระหง่านอยู่บนภูเพ็ก อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวเมืองสกลนครและวิวทะเลสาบหนองหารที่สวยงามอีกด้วย

3. วัดป่าสุทธาวาส


ที่เที่ยวสกลนคร
ภาพจาก Christopher PB / Shutterstock.com
         ตั้งอยู่บริเวณถนนสุขเกษม อำเภอเมือง เป็นสถานที่ที่ละสังขารของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ ทั้งนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ ภายในมีหุ่นขี้ผึ้งซึ่งบรรจุอัฐิธาตุของพระอาจารย์เอาไว้อีกด้วย รวมถึงคุณยังจะได้เยี่ยมชมสถาปัตยกรรมอาคารรูปแบบที่เรียบง่าย เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ อันเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงวัตรปฏิบัติตลอดการใช้ชีวิตของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ นั่นเอง

4. วัดพระธาตุนารายณ์เจงเวง


ที่เที่ยวสกลนคร

         ตั้งอยู่ภายในวัดพระธาตุนารายณ์เจงเวง เป็นปราสาทหินที่ได้รับอิทธิพลศิลปะขอม องค์เจดีย์เป็นทรงสี่เหลี่ยม ส่วนที่เป็นหลังคาและยอด ปัจจุบันหักพังหมดแล้ว ยังคงเหลือแต่องค์พระธาตุ ซึ่งประกอบด้วยปรางค์องค์เดียว สร้างด้วยหินทรายบนฐานศิลาแลงขนาดใหญ่ และเชื่อกันว่าเป็นฝีมือของผู้หญิงสร้างทั้งหมด เพื่อแข่งขันกับผู้ชายที่สร้างพระธาตุภูเพ็ก เป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการเคารพทั้งคนในและนอกจังหวัดสกลนครเป็นจำนวนไม่น้อย 

5. พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์

ที่เที่ยวสกลนคร

         เป็นพระตำหนักที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2518 บริเวณเทือกเขาภูพาน โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงใช้แผนที่ทางอากาศและเสด็จฯ สำรวจเส้นทางป่าเขา น้ำตก เพื่อกำหนดเขตพื้นที่ก่อสร้างพระตำหนักด้วยพระองค์เอง ภายหลังทรงใช้เป็นที่ประทับในช่วงแปรพระราชฐานมาประทับเพื่อทรงติดตามโครงการพระราชดำริในภาคอีสาน พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชน ข้าราชการเข้าเฝ้าฯ รับเสด็จตามภารกิจ และเข้าชมบริเวณพระตำหนักชั้นนอก
6. อุทยานแห่งชาติภูพาน

ที่เที่ยวสกลนคร

         มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในเขตอำเภอเมืองสกลนคร อำเภอพรรณานิคม อำเภอภูพาน อำเภอกุดบาก จังหวัดสกลนคร และอำเภอสมเด็จ อำเภอห้วยผึ้ง จังหวัดกาฬสินธุ์ ภายในมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น พระธาตุภูเพ็ก, ถ้ำเสรีไทย, น้ำตกคำหอม, ผานางเมิน และลานสาวเอ้, น้ำตกห้วยใหญ่ และน้ำตกปรีชาสุขสันต์ เป็นต้น รวมถึงยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติต่าง ๆ ที่ล้วนแล้วแสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของอุทยานแห่งชาติภูพานได้เป็นอย่างดี

7. วัดถ้ำผาแด่น

ที่เที่ยวสกลนคร

         ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพาน บ้านดงน้อย เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดของจังหวัดสกลนคร มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยงานแกะสลักบนหน้าหินผาแสนวิจิตร โดยเป็นการบอกเล่าเรื่องราวพุทธประวัติเอาไว้อย่างน่าสนใจ ควรค่าแก่การอนุรักษ์เป็นอย่างยิ่ง และเพราะด้วยทำเลที่ตั้งของวัดอยู่บนภูเขาสูง ท่ามกลางธรรมชาติที่ร่มรื่น ภายในยังมีลานชมวิว เอาไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมวิวทิวทัศน์และถ่ายรูปสวยอีกด้วย 

8. บ้านท่าแร่

ที่เที่ยวสกลนคร
ภาพจาก topten22photo / Shutterstock.com

ที่เที่ยวสกลนคร

         ตั้งอยู่ริมหนองหาร เป็นหมู่บ้านที่มีประชากรนับถือศาสนาคริสต์มากที่สุดในประเทศ ทั้งยังเป็นชุมชนเก่าแก่กว่า 100 ปี กิจกรรมท่องเที่ยวที่พลาดไม่เมื่อมาเที่ยวที่นี่ เห็นจะเป็นการชมสวยงามของบ้านโบราณทรงยุโรปสวยงาม และในทุกวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลแห่ดาวคริสต์มาส โดยชาวบ้านจะตกแต่งโคมไฟรูปดาวไว้ที่หน้าบ้าน จากนั้นเป็นการเฉลิมฉลองในหมู่ชาวคริสต์ เป็นอีกหนึ่งงานเทศกาลที่เต็มไปด้วยความสุขแทบจะในทุกพื้นที่ของบ้านท่าแร่ 

9. โค้งปิ้งงู
ที่เที่ยวสกลนคร

         ถนนสายหนึ่งในจังหวัดสกลนคร ซึ่งมีเส้นทางโค้งคดเคี้ยวเหมือนการเอางูมาปิ้ง เป็นทางขึ้น-ลงลาดชัน ดังนั้นผู้ขับขี่อาจจะต้องระมัดระวังความปลอดภัยเป็นพิเศษ และยังมีน้ำตกในบริเวณนี้หลายแห่งที่น่าเที่ยวชม เช่น น้ำตกเหวสินธุ์ชัย น้ำตกสามหลั่น และน้ำตกสาวไห้ เป็นต้น หรือถ้าเกิดว่าขับรถแล้วรู้สึกเหนื่อย ก็มีจุดพักรถให้เพื่อน ๆ ได้แวะถ่ายภาพ มีสวนเล็ก ๆ เอาไว้ให้คุณได้เดินเล่นชิล ๆ ยืดเส้นยืดสายอีกด้วย

11. ถนนคนเดินผ้าคราม

ที่เที่ยวสกลนคร

         ตั้งอยู่บริเวณย่านเมืองเก่าสกลนคร หรือหน้าวัดพระธาตุเชิงชุมคู่บ้าน ใครที่ชอบและหลงใหลในผ้าครามอยู่แล้ว ลองมาเที่ยวที่นี่รับรองเลยว่าคุณจะต้องชอบมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว นอกจากเสื้อผ้าครามสวย ๆ แล้ว ยังมีพวกของน่ารัก ๆ ที่ทำจากผ้าลายครามอีกเพียบ เช่น ผ้าคาดเอว, พวงกุญแจ, กระเป๋า, ผ้าคาดหัว และผ้าพันคอ เป็นต้น โดยถนนคนเดินที่นี่จะเปิดช่วงเย็น ๆ ของวันเสาร์และอาทิตย์ มาเที่ยวสกลนครลองแวะมาเที่ยวกันดูนะคะ 

12. อุทยานบัวเฉลิมพระเกียรติ 

ที่เที่ยวสกลนคร

         ตั้งอยู่ตรงข้ามกับบึงหนองหาร ใกล้กับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร สร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งรวบรวมบัวพันธุ์ต่าง ๆ รวมทั้งยังเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของจังหวัดสกลนคร โดดเด่นด้วยสะพานไม้สีแดงที่ทอดยาวให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมบึงบัวอย่างใกล้ชิด หรือจะนั่งรับลมเย็น ๆ ในศาลากลางบึง ก็สามารถทำได้ตามอัธยาศัย 

         บอกเลยนะคะว่า…นี่เป็นเพียงแค่บางส่วนของที่เที่ยวสกลนครเท่านั้นเอง สกลนครยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจซ่อนอยู่อีกเพียบ เรียกได้ว่าเป็นจังหวัดที่มีเสน่ห์ครบครัน ให้เพื่อน ๆ ได้ไปพักผ่อนและเที่ยวกันได้อย่างเพลิน ๆ แบบไม่มีเบื่อเลยค่ะ ^ ^

วันจันทร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2561


จังหวัดสกลนคร

จังหวัดสกลนคร

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จังหวัดสกลนคร
ตราประจำจังหวัดสกลนคร
ตราประจำจังหวัด
พระธาตุเชิงชุมคู่บ้าน พระตำหนักภูพานคู่เมือง
งามลือเลื่องหนองหาน แลตระการปราสาทผึ้ง
สวยสุดซึ้งสาวภูไท ถิ่นมั่นในพุทธธรรม
ข้อมูลทั่วไป
อักษรไทยสกลนคร
อักษรโรมันSakon Nakhon
ชื่อไทยอื่น ๆเมืองสกลทวาปี, เมืองหนองหานหลวง
ผู้ว่าราชการวิทยา จันทร์ฉลอง
(ตั้งแต่ พ.ศ. 2559)
ข้อมูลสถิติ
พื้นที่9,605.764 ตร.กม.[1]
(อันดับที่ 19)
ประชากร1,140,229 คน[2] (พ.ศ. 2558)
(อันดับที่ 17)
ความหนาแน่น118.53 คน/ตร.กม.
(อันดับที่ 43)
ISO 3166-2TH-47
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด
ต้นไม้อินทนิล
ดอกไม้อินทนิล
สัตว์น้ำปลากา
ศาลากลางจังหวัด
ที่ตั้งภายในศูนย์ราชการจังหวัดสกลนคร ถนนศูนย์ราชการ ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร 47000
โทรศัพท์(+66) 0 4271 4959
โทรสาร(+66) 0 4271 1763
เว็บไซต์จังหวัดสกลนคร
แผนที่
ประเทศมาเลเซียประเทศพม่าประเทศลาวประเทศเวียดนามประเทศกัมพูชาจังหวัดนราธิวาสจังหวัดยะลาจังหวัดปัตตานีจังหวัดสงขลาจังหวัดสตูลจังหวัดตรังจังหวัดพัทลุงจังหวัดกระบี่จังหวัดภูเก็ตจังหวัดพังงาจังหวัดนครศรีธรรมราชจังหวัดสุราษฎร์ธานีจังหวัดระนองจังหวัดชุมพรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จังหวัดเพชรบุรีจังหวัดราชบุรีจังหวัดสมุทรสงครามจังหวัดสมุทรสาครกรุงเทพมหานครจังหวัดสมุทรปราการจังหวัดฉะเชิงเทราจังหวัดชลบุรีจังหวัดระยองจังหวัดจันทบุรีจังหวัดตราดจังหวัดสระแก้วจังหวัดปราจีนบุรีจังหวัดนครนายกจังหวัดปทุมธานีจังหวัดนนทบุรีจังหวัดนครปฐมจังหวัดกาญจนบุรีจังหวัดสุพรรณบุรีจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจังหวัดอ่างทองจังหวัดสิงห์บุรีจังหวัดสระบุรีจังหวัดลพบุรีจังหวัดนครราชสีมาจังหวัดบุรีรัมย์จังหวัดสุรินทร์จังหวัดศรีสะเกษจังหวัดอุบลราชธานีจังหวัดอุทัยธานีจังหวัดชัยนาทจังหวัดอำนาจเจริญจังหวัดยโสธรจังหวัดร้อยเอ็ดจังหวัดมหาสารคามจังหวัดขอนแก่นจังหวัดชัยภูมิจังหวัดเพชรบูรณ์จังหวัดนครสวรรค์จังหวัดพิจิตรจังหวัดกำแพงเพชรจังหวัดตากจังหวัดมุกดาหารจังหวัดกาฬสินธุ์จังหวัดเลยจังหวัดหนองบัวลำภูจังหวัดหนองคายจังหวัดอุดรธานีจังหวัดบึงกาฬจังหวัดสกลนครจังหวัดนครพนมจังหวัดพิษณุโลกจังหวัดอุตรดิตถ์จังหวัดสุโขทัยจังหวัดน่านจังหวัดพะเยาจังหวัดแพร่จังหวัดเชียงรายจังหวัดลำปางจังหวัดลำพูนจังหวัดเชียงใหม่จังหวัดแม่ฮ่องสอนแผนที่ประเทศไทย จังหวัดสกลนครเน้นสีแดง
เกี่ยวกับภาพนี้

สารานุกรมประเทศไทย ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย
สกลนคร หรืออีกชื่อหนึ่งว่า "เมืองหนองหานหลวง" เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนตั้งอยู่ในแอ่งสกลนคร และเป็นศูนย์ปฏิบัติการกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน2 ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์สืบเนื่องจวบจนปัจจุบัน ทั้งนี้จังหวัดสกลนครยังเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีความสำคัญและหลากหลายในด้านต่างๆโดยเฉพาะทางด้านสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ สังคม การเมือง ศาสนา และวัฒนธรรมทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น[3] และเป็นจังหวัดศูนย์กลางในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และศูนย์กลางทางการศึกษา อันเป็นสถานที่ตั้งของสถานศึกษาขนาดใหญ่ใน กลุ่มจังหวัดสนุก (สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร)[4]

เนื้อหา

  [ซ่อน

ชื่อเมือง[แก้]

คำว่า "สกลนคร" มาจากคำภาษาบาลีและสันสกฤต สกล [สะ-กะ-ละ] หมายความว่า โดยรวม ครอบคลุม หรือทั้งหมด และคำว่า "นคร" [นะ-คะ-ระ] หมายถึงแหล่งที่อยู่หรือเมือง ดังนั้นชื่อที่แท้จริงของเมืองหมายความว่า "นครแห่งนครทั้งมวล"

สัญลักษณ์ประจำจังหวัด[แก้]

ประวัติ[แก้]

สกลนคร เป็นแหล่งธรรมะ มีปูชนียสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาหลายแห่ง เช่น พระธาตุเชิงชุม พระธาตุดูม พระธาตุนารายณ์เจงเวง พระธาตุศรีมงคล พระธาตุภูเพ็ก และมีพระเกจิอาจารย์ดังที่เป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศ อาทิ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโตพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร, หลวงปู่หลุย จันทสาโร, พระอาจารย์วัน อุตตโม และหลวงปู่เทสก์ เทสก์รังสี เป็นต้น
จังหวัดสกลนครตั้งอยู่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ โดยมีการขุดพบฟอสซิลไดโนเสาร์บริเวณแนวทิวเขาภูพาน อำเภอวาริชภูมิ ภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ ชุมชนโบราณในพื้นที่จังหวัดสกลนครอยู่ร่วมสมัยเดียวกับอารยธรรมบ้านเชียงในจังหวัดอุดรธานี จากการสำรวจแหล่งชุมชนโบราณในพื้นที่แอ่งสกลนคร บริเวณลุ่มแม่น้ำสงครามครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของอำเภอบ้านดุง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี อำเภอสว่างแดนดิน อำเภอวาริชภูมิ อำเภอพังโคน อำเภอวานรนิวาส อำเภอพรรณานิคม และรอบ ๆ หนองหาน อำเภอเมืองสกลนคร พบแหล่งโบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์จำนวน 83 แห่ง ชุมชนโบราณของแอ่งสกลนครนี้มีอายุประมาณ 600 ปีก่อนพุทธกาลจนถึงพุทธศตวรรษที่ 8 (ระหว่าง 3,000-1,800 ปีมาแล้ว) จากหลักฐานการค้นพบต่าง ๆ ของที่นี่พบว่า ชุมชนโบราณในแอ่งสกลนครได้มีการรวมตัวกันเป็นสังคมขนาดใหญ่และอาจจะพัฒนาเป็นสังคมเมืองในสมัยต่อมา
สกลนครเดิมชื่อ เมืองหนองหานหลวง แห่งอาณาจักรขอมโบราณ โดยขุนขอมราชบุตรเจ้าเมืองอินทปัฐนคร ซึ่งได้อพยพครอบครัวและบ่าวไพร่มาจากเมืองเขมร มาสร้างเมืองใหม่ที่ริมหนองหานหลวง บริเวณท่านางอาบ ปัจจุบันเรียกว่าท่าศาลา อำเภอโคกศรีสุพรรณ มีเจ้าปกครองเรื่อยมาจนสิ้นสมัยพระเจ้าสุวรรณภิงคาระ เมื่อเกิดฝนแล้งทำให้ราษฎรอพยพไปเมืองเขมร เมืองหนองหานหลวงจึงร้างอยู่ระยะหนึ่ง ครั้นถึงพุทธศตวรรษที่ 19 เมื่อสกลนครอยู่ภายใต้อิทธิพลของอาณาจักรล้านช้าง จึงได้เปลี่ยนชื่อเมืองเป็น "เชียงใหม่หนองหาน" หรือเมืองสระหลวงหลังจากนั้นเมืองสกลนคร คงอยู่ใต้การปกครองกันไปมา ระหว่างอาณาจักรล้านช้างกับอาณาจักรสุโขทัย และไม่ค่อยมีบทบาททางประวัติศาสตร์ที่โดดเด่นนัก จนมาถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา ผู้คนกระจัดกระจายเป็นชุมชนเล็กๆทำมาหากินตามริมหนองหาน จ่ายส่วย อากรให้เจ้าแขวงประเทศราชศรีโคตรบอง เพื่อถวายต้นไม้เงิน ต้นไม้ทองให้แก่ราชธานีกรุงศรีอยุธยาในสมัยนั้น
จนมาถึงในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อุปฮาดเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยครอบครัวมาตั้งบ้านเมืองดูแลรักษาองค์พระธาตุเชิงชุม จนมีผู้คนมากขึ้นแล้วจึงโปรดเกล้าฯ ให้ยกบ้านธาตุเชิงชุมเป็น เมืองสกลทวาปี โดยแต่งตั้งให้อุปฮาดเมืองกาฬสินธุ์เป็นพระธานี เจ้าเมืองสกลทวาปีคนแรก ต่อมาปี พ.ศ. 2369 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เกิดกบฏเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์ เจ้าเมืองสกลทวาปีไม่ได้เตรียมกำลังป้องกันเมือง เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เป็นแม่ทัพมาตรวจราชการเห็นว่าเจ้าเมืองกรมการไม่เอาใจใส่ต่อบ้านเมือง ปล่อยให้ข้าศึก (ทัพเจ้าอนุวงศ์) ล่วงล้ำไปเมืองนครราชสีมาได้โดยง่าย จึงสั่งให้นำตัวพระธานีไปประหารชีวิตที่หนองทรายขาว พร้อมกับกวาดต้อนผู้คนในเมืองสกลทวาปีไปอยู่ที่เมืองกบินทร์บุรีบ้าง เมืองประจันตคามบ้าง ให้คงเหลือรักษาองค์พระธาตุเชิงชุมแต่เพียงพวกเพี้ยศรีคอนชุม ตำบลธาตุเชิงชุม บ้านหนองเหียน บ้านจานเพ็ญ บ้านอ่อมแก้ว บ้านธาตุเจงเวง บ้านพราน บ้านนาคี บ้านวังยาง และบ้านพรรณา รวม 10 ตำบล เพื่อให้เป็นข้าปฏิบัติพระธาตุเชิงชุมเท่านั้น
ในสมัยต่อ ๆ มาได้มีราชวงศ์คำแห่งเมืองมหาชัยกองแก้วทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ได้อพยพข้ามแม่น้ำโขงเข้ามาขอพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ขอสร้างบ้าน แปงเมืองขึ้นใหม่ที่เมืองสกลทวาปี พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ราชวงศ์คำเป็นพระยาประเทศธานี (คำ) ในตำแหน่งเจ้าเมืองสกลทวาปี และทรงเปลี่ยนนามเมืองใหม่เป็น เมืองสกลนคร ตั้งแต่บัดนั้นมา จนถึง พ.ศ. 2435 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว การปกครองเมืองสกลนคร จึงเปลี่ยนเป็นรูปแบบการปกครองส่วนภูมิภาคมณฑลเทศาภิบาล โดยส่วนกลางส่งพระยาสุริยเดช (กาจ) มาเป็นข้าหลวงเมืองสกลนครคนแรก และมีพระยาประจันตประเทศธานี (โง่นคำ พรหมสาขา ณ สกลนคร) เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดคนแรก

อาณาเขตติดต่อ[แก้]

สกลนครมีอาณาเขตติดกับจังหวัดอื่น ๆ ดังนี้

สภาพทางภูมิศาสตร์[แก้]

ภูมิประเทศ[แก้]

ลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง สูงกว่าระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยประมาณ 172 เมตร ด้านทิศเหนือของจังหวัด (บริเวณอำเภอบ้านม่วง อำเภอคำตากล้า อำเภอสว่างแดนดิน อำเภออากาศอำนวย และอำเภอเจริญศิลป์) มีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มลอนคลื่นไม่สม่ำเสมอกัน ใช้น้ำจากลำห้วยสาขาในการทำนา ทิศเหนือของอำเภออากาศอำนวยเป็นที่ราบน้ำท่วมถึง เนื่องจากติดกับแม่น้ำสงคราม ทำให้เหมาะแก่การทำนากว่าพื้นที่โดยรอบ แต่พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าทาม ที่ขึ้นริมน้ำและปล่อยรกร้างว่างเปล่า ส่วนทางตอนใต้มีลักษณะเป็นแอ่งกระทะขนาดใหญ่ เรียกว่าแอ่งสกลนคร จุดต่ำสุดของแอ่งคือ ทะเลสาบหนองหาน อำเภอเมืองสกลนคร และหนองญาติ อำเภอเมืองนครพนม นอกจากนี้ยังมีทิวเขาภูพานทางด้านทิศตะวันตกและทิศใต้บริเวณอำเภอภูพานและอำเภอกุดบาก มีลักษณะภูมิประเทศแบบภูเขาสูงสลับกับที่ราบลูกคลื่นที่อยู่ช่วงกลางระหว่างทิวเขาภูพานในเขตจังหวัดกาฬสินธุ์และจังหวัดสกลนคร

ภูมิอากาศ[แก้]

ลักษณะภูมิประเทศของภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นที่ราบสูง มีทิวเขาล้อมรอบทั้งด้านทิศตะวันตกและด้านใต้ ได้แก่ ทิวเขาเพชรบูรณ์และทิวเขาดงพญาเย็นอยู่ทางตะวันตก ทิวเขาสันกำแพงและทิวเขาพนมดงรักอยู่ทางด้านใต้ ทำให้ฝนที่เกิดจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีน้อย ส่วนมากเป็นฝนที่เกิดจากร่องความกดอากาศต่ำพายุดีเปรสชันจากอ่าวตังเกี๋ยและทะเลจีนใต้ที่เคลื่อนผ่านเข้ามาระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายน ค่าปานกลางของปริมาณน้ำฝนจังหวัดสกลนครประมาณปีละ 1,578 มิลลิเมตร สกลนครมีลักษณะอากาศหนาวอย่างชัดเจนกระแสลมที่เย็นและแห้ง หย่อมความกดอากาศสูงที่แผ่ปกคลุมมาจากประเทศจีน ส่งผลกระทบต่อดินฟ้าอากาศในจังหวัดสกลนครมาก เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศเป็นแอ่งกระทะ และมีฉากรับลมเป็นทิวเขาภูพาน ประกอบกับเมื่อมีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจากประเทศจีนที่พัดเข้ามา เมื่อพัดผ่านหนองหานน้ำจะเป็นตัวลดอุณหภูมิลง จึงทำให้สกลนครมีอากาศที่หนาวเย็นกว่าพื้นที่อื่น จังหวัดสกลนครเคยมีอุณหภูมิต่ำสุดจนถึง -1.4 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2517 ที่สถานีอากาศเกษตร อำเภอเมืองสกลนคร และวัดได้ -2.5 เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2542 สถานีตรวจอากาศเกษตรสกลนคร ซึ่งเป็นสถิติอุณหภูมิพื้นราบที่ต่ำสุดของประเทศไทยในขณะนี้ [5]

หน่วยการปกครอง[แก้]


แผนที่อำเภอในจังหวัดสกลนคร

องค์พระธาตุเชิงชุม
การปกครองแบ่งออกเป็น 18 อำเภอ 125 ตำบล 1323 หมู่บ้าน
  1. อำเภอเมืองสกลนคร
  2. อำเภอกุสุมาลย์
  3. อำเภอกุดบาก
  4. อำเภอพรรณานิคม
  5. อำเภอพังโคน
  6. อำเภอวาริชภูมิ
  7. อำเภอนิคมน้ำอูน
  8. อำเภอวานรนิวาส
  9. อำเภอคำตากล้า
  1. อำเภอบ้านม่วง
  2. อำเภออากาศอำนวย
  3. อำเภอสว่างแดนดิน
  4. อำเภอส่องดาว
  5. อำเภอเต่างอย
  6. อำเภอโคกศรีสุพรรณ
  7. อำเภอเจริญศิลป์
  8. อำเภอโพนนาแก้ว
  9. อำเภอภูพาน

รายนามผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร[แก้]

รายนามผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร
ลำดับรายนามระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง
1พระยาประจันตประเทศธานี-
2พระพิษัยสิทธิกรรม-
3พระเลิศแหล่งหล่ม1 เมษายน 2451 ถึง 31 มีนาคม 2454
4พระยาสกลกิจวิจารย์1 เมษายน 2454 ถึง 26 กันยายน 2471
5พระอนุบาลสกลเขต8 กันยายน 2471 ถึง 31 มีนาคม 2473
6พ.ท.พระณรงค์ฤทธิ์1 เมษายน 2474 ถึง 26 กันยายน 2474
7พระตราษบุรีศรีสมุทรเขต1 มีนาคม 2474 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2476
8หลวงบริบาลนิคมเขต14 มีนาคม 2476 ถึง 31 มีนาคม 2478
9พ.ต.ท. หลวงไกลกลางณรงค์1 เมษายน 2478 ถึง 11 พฤษภาคม 2480
10หลวงเกษม ประศาสน์12 พฤษภาคม 2480 ถึง 1 สิงหาคม 2481
11พระบรรณศาสน์สาธร2 สิงหาคม 2481 ถึง 31 มีนาคม 2482
12นายสุข ฉายาชวลิต1 เมษายน 2482 ถึง 30 เมษายน 2484
13ขุนศุภกิจวิเลขการ1 พฤษภาคม 2484 ถึง 31 พฤษภาคม 2487
14นายเติม ศิลปี1 มกราคม 2488 ถึง 30 กันยายน 2489
15พ.ต.ท. หลวงนเรนทร เสนี1 พฤษภาคม 2489 ถึง 30 ตุลาคม 2490
16นายชู สุคนธมัติ24 พฤษภาคม 2490 ถึง 15 ธันวาคม 2490
17นายเพชร บูรณะวรศิริ23 ธันวาคม 2490 ถึง 2 กันยายน 2493
18พ.ต.อ. เสนาะศักดิ์ คิวสกุล4 กันยายน 2493 ถึง 13 ตุลาคม 2495
19พ.ต.อ. เนื่อง รายะนาค4 พฤศจิกายน 2495 ถึง 22 พฤษภาคม 2500
20พ.ต.อ. นิรันดร ชัยนาม23 พฤษภาคม 2500 ถึง 8 มกราคม 2503
21นายเที่ยง เฉลิมช่วง9 มกราคม 2503 ถึง 2 มกราคม 2505
22นายสุพัฒน์ วงษ์วัฒนะ3 มกราคม 2505 ถึง 1 พฤษภาคม 2506
23นายโบแดง จันตะเสน6 ธันวาคม 2506 ถึง 30 พฤศจิกายน 2511
24นายจรูญ โลกะกะลิน24 ตุลาคม 2511 ถึง 30 กันยายน 2514
25นายสอน สุทธิสาร4 ตุลาคม 2514 ถึง 30 กันยายน 2518
26นายพิบูลย์ ธุรภาคพิบูล1 ตุลาคม 2518 ถึง 1 ตุลาคม 2519
27นายสมพร กลิ่นพงษา1 ตุลาคม 2519 ถึง 30 กันยายน 2520
28นายวิเชียร วิมลศาสตร์1 ตุลาคม 2520 ถึง 30 กันยายน 2521
29นายสายสิทธิ พรแก้ว1 ตุลาคม 2521 ถึง 30 กันยายน 2524
30นายปรีชา พงศ์อิศวรานันท์1 ตุลาคม 2524 ถึง 30 กันยายน 2527
31นายพีระ บุญจริง1 ตุลาคม 2547 ถึง 30 กันยายน 2531
32นายถนอม ชาญนุวงศ์1 ตุลาคม 2531 ถึง 30 กันยายน 2534
33นายสุพร สุภสร1 ตุลาคม 2534 ถึง 30 กันยายน 2535
34นายอำนวย ยอดเพชร1 ตุลาคม 2535 ถึง 30 กันยายน 2536
35เรือตรีสุนัย ณ อุบล1 ตุลาคม 2536 ถึง 30 กันยายน 2538
36นายเกียรติพันธ์ น้อยมณี1 ตุลาคม 2538 ถึง 30 กันยายน 2539
37นายโยธิน เมธชนัน1 ตุลาคม 2539 ถึง 19 ตุลาคม 2540
38์นายรุ่งฤทธิ์ มกรพงศ์16 ตุลาคม 2540 ถึง 31พฤษภาคม 2543
39นายชัยสิทธิ์ โหตระกิตย์1 มิถุนายน 2543 ถึง 30 กันยายน 2544
40นายทวีป เทวิน1 ตุลาคม 2544 ถึง 27 ตุลาคม 2545
41นายพีรพล ไตรทศาวิทย์28 ตุลาคม 2545 ถึง 4 มิถุนายน 2546
42นายปานชัย บวรรัตนปราณ5 มิถุนายน 2546 ถึง 30 กันยายน 2548
43นายปรีชา กมลบุตร1 ตุลาคม 2548 ถึง 30 กันยายน 2550
44นายไพรัตน์ สกลพันธ์1 ตุลาคม 2550 ถึง 5 พฤษภาคม 2551
45นายสุวัฒน์ ตันประวัติ6 พฤษภาคม 2551 ถึง 19 ตุลาคม 2551
46นายวิทยา ผิวผ่อง20 ตุลาคม 2551 ถึง 15 มีนาคม 2552
47นายสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ16 มีนาคม 2552 ถึง 13 กันยายน 2553
48นายอำนาจ ผการัตน์1 ตุลาคม 2553 ถึง 30 กันยายน 2554
49นายจรินทร์ จักกะพาก28 พฤศจิกายน 2554 ถึง 7 ตุลาคม 2555
50นายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์8 ตุลาคม 2555 ถึง 30 กันยายน 2558
51นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์1 ตุลาคม 2558 ถึง 30 กันยายน 2559
52นายวิทยา จันทร์ฉลอง1 ตุลาคม 2559 ถึงปัจจุบัน

สถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อน[แก้]

แหล่งท่องเที่ยว[แก้]

อุทยาน[แก้]

สกลนครเป็นจังหวัดที่มีทรัพยากรธรรมชาติทั้งภูเขาและป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ เป็น1ใน5จังหวัด(5จังหวัดที่ประกาศเป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธารของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ;จังหวัดนครราชสีมา-แม่น้ำมูล-ลำตะคอง-ลำมูลบน,จังหวัดชัยภูมิ-แม่น้ำชี-ลำน้ำพรหม-ลำน้ำเชิญ,จังหวัดเลย-แม่น้ำเลย-ลำน้ำพอง-แม่น้ำเหือง,จังหวัดอุดรธานี-แม่น้ำสงคราม-แม่น้ำปาว-ลำน้ำห้วยหลวงและจังหวัดสกลนคร-แม่น้ำสงคราม-ลำน้ำก่ำ-ลำน้ำพุง)ที่เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอุทยาน/วนอุทยานที่สำคัญดังนี้ 
  1. อุทยานแห่งชาติภูพาน ที่ทำการอุทยานฯตั้งอยู่ที่ตำบลห้วยยาง อำเภอเมืองสกลนคร(สกลนคร-กาฬสินธุ์)
  2. อุทยานแห่งชาติภูผายล/ห้วยหวด ที่ทำการอุทยานฯตั้งอยู่ที่บ้านห้วยหวด ตำบลจันทร์เพ็ญ อำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร(สกลนคร-นครพนม-มุกดาหาร)
  3. อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก ที่ทำการอุทยานฯตั้งอยู่ที่บ้านท่าวัด ตำบลปทุมวาปี อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร(สกลนคร-อุดรธานี-กาฬสินธุ์)
  4. วนอุทยานภูผาแด่น ที่ทำการวนอุทยานฯตั้งอยู่ที่บ้านหนองไผ่ ตำบลดงมะไฟ อำเภอเมืองสกลนคร

เทศกาลและประเพณีประจำปี[แก้]

การคมนาคม[แก้]

การคมนาคมทางบก[แก้]

  • สถานีขนส่งผู้โดยสารเทศบาลนครสกลนคร
  • สถานีขนส่งผู้โดยสาร แห่งที่ 2 เทศบาลนครสกลนคร
  • สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอสว่างแดนดิน (ยกเลิกให้บริการ)

ป้ายชื่อถนนในจังหวัดสกลนคร
รถยนต์ จากกรุงเทพมหานคร ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 (พหลโยธิน) ถึงจังหวัดสระบุรี จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2(มิตรภาพ) ผ่านจังหวัดนครราชสีมา แล้วเลี้ยวแยกเข้าทางไปในเขตอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 ไปจนถึงบ้านท่าพระ แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 23 ผ่านจังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดกาฬสินธุ์ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 213 เพื่อเข้าสู่จังหวัดสกลนคร
รถไฟ สามารถเดินทางโดย การรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งมีบริการรถไฟออกจากสถานีรถไฟกรุงเทพ(หัวลำโพง) ไปลงที่จังหวัดอุดรธานี แล้วเดินทางต่อไปโดยรถประจำทางไปจังหวัดสกลนครอีกประมาณ 159 กิโลเมตร (ดูข้อมูลที่ "รถโดยสารประจำทาง เส้นทางระหว่างจังหวัด")
รถโดยสารประจำทาง เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ มีรถโดยสารปรับอากาศชั้น 1 และชั้น 2 สาย 26 (กรุงเทพฯ - นครพนม แต่รถผ่านจังหวัดสกลนคร ใช้เส้นทาง นครราชสีมา เมืองพล บ้านไผ่ มหาสารคาม กาฬสินธุ์ สกลนคร บ้านท่าแร่ กุสุมาลย์) สาย 27 (กรุงเทพฯ - สกลนคร หรือ กรุงเทพฯ - สกลนคร - เรณูนคร) สาย 930 (กรุงเทพฯ - นครพนม แต่รถผ่านจังหวัดสกลนคร ใช้เส้นทาง นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี หนองหาน สว่างแดนดิน พังโคน พรรณานิคม บ้านดงมะไฟ สกลนคร บ้านท่าแร่ กุสุมาลย์) วิ่งให้บริการจาก สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) หรือ หมอชิต 2 มายังจังหวัดสกลนคร รถจะจอดที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดสกลนคร แห่งที่ 2 (บขส.ใหม่) โดยมีบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ให้บริการรถประจำทางปรับอากาศชั้น 1 มาตรฐาน ม.4ข, ม.4ก (VIP) สาย 26 27 และชั้น 2 (ม.4ค) สาย 26,27 และเอกชน ที่ได้รับสัมปทานจาก บขส. ให้เปิดบริการเดินรถโดยสารสาย 26 27 และ 930 จำนวน 3 รายคือ
• บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด ให้บริการรถประจำทางปรับอากาศชั้น 1 มาตรฐาน ม.1ข Silver และ ม.1พ Gold+ สาย 26 และ 27 ทั้งแบบหมดระยะที่สกลนคร และหมดระยะที่เรณูนคร(เป็นรถผ่าน)
• บริษัท กิจการราชสีมายานยนต์ จำกัด (เชิดชัยทัวร์) ให้บริการรถประจำทางปรับอากาศชั้น 1, ชั้น 2 มาตรฐาน ม.1ข (รถชั้นเดียว) ,ม.4ข (รถ 2 ชั้น) และ ม.2 สาย 930
• บริษัท โลตัสพิบูลทัวร์ จำกัด ให้บริการรถประจำทางชั้น 1 มาตรฐาน ม.1ข (รถชั้นเดียว) และ ม.4กพ (รถสองชั้น ชั้นบน พ. ชั้นล่าง ก.) สาย 930
รถโดยสารประจำทาง เส้นทางระหว่างจังหวัด
• บริษัท อุดร-สกลเดินรถ จำกัด สาย 230 สกลนคร - อุดรธานี (ผ่าน บ้านดงมะไฟ อ.พรรณานิคม อ.พังโคน อ.สว่างแดนดิน อ.หนองหาน อุดรธานี)
• บริษัท สหอุดรเดินรถ จำกัด สาย 231 อุดรธานี - สกลนคร - นครพนม (ผ่าน หนองหาน อ.สว่างแดนดิน อ.พังโคน อ.พรรณานิคม บ้านดงมะไฟ สกลนคร บ้านท่าแร่ อ.กุสุมาลย์ นครพนม)
• บริษัท แสงประทีปเดินรถ จำกัด สาย 237 สกลนคร - กาฬสินธุ์ และสาย 238 สกลนคร - กาฬสินธุ์ - มหาสารคาม
• บริษัท สหมิตรอุบล จำกัด สาย 235 อุบลราชธานี - สกลนคร - อุดรธานี
• สาย 287 สกลนคร - อ.บ้านแพง (จ.นครพนม)
• สาย 559 สกลนคร - อ.บ้านม่วง
• บริษัท เชิงชุมเดินรถ จำกัด (ชัยวัฒน์เซอร์วิส) สาย 586 ขอนแก่น - นครพนม (ใช้เส้นทาง กาฬสิทธุ์ สมเด็จ บ้านคำเพิ่ม สกลนคร บ้านท่าแร่ กุสุมาลย์)
• บริษัท จักรพงษ์ทัวร์ จำกัด และ บริษัท เทพสมบัติ จำกัด (สมบัติทัวร์) สาย 661 นครพนม - เชียงราย
• บริษัท ชาญทัวร์ จำกัด สาย 827 นครพนม - ระยอง และสาย 837 นครพนม - นครศรีธรรมราช / นครพนม - เกาะสมุย
• บริษัท เพชรประเสริฐ จำกัด สาย 876 เชียงใหม่ - นครพนม
การคมนาคมภายในตัวจังหวัดสกลนคร
• รถเมล์เล็ก สีเหลือง วิ่งรอบเมือง ราคา 10 บาท ตลอดสาย (เส้นทาง บขส.ใหม่ ศูนย์ราชการ รร.สกลพัฒน์ ตลาด ต.การค้า บิ๊กซี รพ.ศูนย์สกลนคร วัดพระธาตุเชิงชุม สภ.เมืองสกลนคร รร.สกลราชฯ ประตูเมือง ถนนข้างตลาด ต.การค้า และวิ่งกลับเส้นทางเดิม ไป บขส.ใหม่)
• รถสองแถว มีหลายสาย คิดค่าโดยสารตามระยะทาง
• รถจักรยานยนต์รับจ้าง คิดค่าโดยสารตามระยะทาง
• รถสามล้อเครื่อง (รถสกายแล็บ) คิดค่าโดยสารตามระยะทาง (เป็นรถเหมา)
• แท็กซี่ คิดค่าโดยสารตามระยะทางบนมิเตอร์
• รถสามล้อถีบ คิดค่าโดยสารตามระยะทาง

การคมนาคมทางอากาศ[แก้]

การเดินทางโดยเครื่องบินโดยมีสายการบินที่ให้บริการ 2 สายการบินคือ
• นกแอร์ สกลนคร ไป-กลับ กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) วันละ 3 เที่ยวบิน
• แอร์เอเชีย สกลนคร ไป-กลับ กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) วันละ 2 เที่ยวบิน

พระตำหนักที่สำคัญ[แก้]

สนามกีฬา[แก้]

การศึกษา[แก้]


มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร

ระดับอนุบาล/ประถมศึกษา[แก้]

ระดับมัธยมศึกษา[แก้]

ระดับอาชีวศึกษา[แก้]

สังกัดรัฐบาล
สังกัดเอกชน

ระดับอุดมศึกษา[แก้]

สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ
สถาบันอุดมศึกษาในกำกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
สถาบันอุดมศึกษาเอกชน

บุคคลสำคัญ ที่มีชื่อเสียง[แก้]

พระเถระ[แก้]

การเมือง[แก้]

นักวิชาการ[แก้]

นักธุรกิจ[แก้]

วงการบันเทิง[แก้]

นักกีฬา[แก้]

นักฟุตบอล
นักมวย
นักปั่นจักรยาน